สังเกตไหมว่าเวลาถามทางในต่างประเทศ เขามักจะตอบกลับมาเป็นเวลา เช่น “อีก 2 ชั่วโมงถึง” แต่ตัดภาพมาที่เมืองไทย คำตอบที่ได้มักจะเป็น “อีก 50 กิโลฯ” สาเหตุที่วัฒนธรรมการบอกระยะทางต่างกันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีปัจจัยสำคัญจากสภาพถนนและวินัยจราจรที่ทำให้การคำนวณเวลาในบ้านเราเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด
ปัจจัยที่ทำให้ถนนเมืองไทยคำนวณเวลาเดินทางเป๊ะๆ ไม่ได้
ความแตกต่างนี้เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานและพฤติกรรมการขับขี่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่ง Sanook Auto ได้รวบรวมเหตุผลที่ทำให้การบอกระยะทางเป็นเวลาในไทยนั้นคลาดเคลื่อนได้ง่าย ดังนี้
- กายภาพของถนน: ถนนไทยมักเป็นทางหลวงผ่านชุมชน มีจุดกลับรถบ่อยและมีตลาดริมทาง ทำให้ต้องเบรกและเร่งความเร็วอยู่ตลอดเวลา ต่างจากต่างประเทศที่เป็นระบบปิด มีรั้วกั้นชัดเจน
- วินัยจราจร: ปัญหาการขับช้าแช่ขวาในไทยเพียงคันเดียว อาจส่งผลให้รถติดสะสมเป็นขบวนยาว ทำให้ความเร็วเฉลี่ยในการเดินทางไม่คงที่
- จุดตัดและแยกไฟแดง: ถนนสายหลักของไทยหลายสายมีสี่แยกไฟแดงโผล่มาเป็นระยะ แม้จะเป็นเส้นทางข้ามจังหวัด ซึ่งการติดไฟแดงแต่ละครั้งอาจทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
- ตัวแปรที่ไม่คาดคิด: ไม่ว่าจะเป็นด่านตรวจที่บีบเลนจราจร การซ่อมถนนที่ยาวนาน (เช่น พระราม 2) หรือรถทางการเกษตรที่วิ่งช้าบนไหล่ทาง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ “ระยะทาง (กิโลเมตร)” จึงเป็นค่าเดียวที่แน่นอนที่สุดสำหรับคนไทย ส่วนเวลาเดินทางนั้นขึ้นอยู่กับสภาพจราจรและดวงในวันนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของโครงสร้างมอเตอร์เวย์สายใหม่ๆ ในปัจจุบัน เริ่มช่วยให้เราคำนวณเวลาได้แม่นยำขึ้นเหมือนเมืองนอกแล้ว
สรุปได้ว่าการบอกระยะทางเป็นกิโลเมตรช่วยให้คนเดินทางวางแผนน้ำมันและระยะทางได้ชัวร์กว่าในสภาพถนนที่เอาแน่อะไรไม่ได้ การเคารพกฎจราจรและไม่ขับแช่ขวาจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนประหยัดเวลาและถึงที่หมายได้เร็วขึ้น