เกียร์ P vs เกียร์ N ใช้ตอนไหนดีที่สุด? เพิ่มความปลอดภัย ยืดอายุเกียร์

เกียร์ P vs เกียร์ N ใช้ตอนไหนดีที่สุด? เพิ่มความปลอดภัย ยืดอายุเกียร์

เกียร์ P vs เกียร์ N ใช้ตอนไหนดีที่สุด? เพิ่มความปลอดภัย ยืดอายุเกียร์

การใช้งานตำแหน่งเกียร์จอดระหว่างเกียร์ P (Parking) และเกียร์ N (Neutral) เป็นสิ่งที่คนขับรถยนต์เกียร์ออโต้ต้องใส่ใจ เพราะแม้ทั้งสองตำแหน่งจะมีไว้สำหรับหยุดรถเหมือนกัน แต่กลไกการทำงานนั้นแตกต่างกันมาก เกียร์ P จะมีสลักล็อกเพลาขับไว้ ทำให้ล้อหมุนไม่ได้ แต่ เกียร์ N จะตัดการส่งกำลังเพื่อให้รถเข็นได้ การเลือกใช้ให้ถูกสถานการณ์จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของรถได้จริง

หลักการใช้งานเกียร์ P และ N ให้ถูกสถานการณ์

เพื่อให้การใช้งานเกียร์ P และ N เป็นไปอย่างเหมาะสมที่สุด เราสามารถแบ่งสถานการณ์การจอดรถออกเป็นกรณีต่าง ๆ ที่ต้องการกลไกการหยุดรถที่แตกต่างกัน

  • จอดรถติดไฟแดง / หยุดชั่วคราวริมทาง:
    • ถ้าต้องรอนานเกินปกติ แนะนำให้ใช้ เกียร์ N ควบคู่กับการดึงเบรกมือ เพราะช่วยประหยัดน้ำมัน ลดภาระเกียร์ และลดความเมื่อยล้าได้
    • ข้อควรระวังสำคัญ: ไม่ควรใช้ เกียร์ P ขณะติดไฟแดงหรือจอดกลางถนน เพราะหากถูกชนท้ายอย่างรุนแรง สลักเกียร์จะพังเสียหายหนักจนเกียร์รถอาจเสียหายทั้งระบบ
  • การจอดรถในลานจอด (ห้างสรรพสินค้า):
    • จอดในซอง (ช่องจอดปกติ): ต้องเข้า เกียร์ P เพื่อให้ระบบทำการล็อกล้อ ป้องกันรถไหล เป็นมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
    • จอดซ้อนคัน: ต้องใช้ เกียร์ N เท่านั้น เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข็นรถของเราเพื่อเปิดทางเข้า-ออกได้สะดวก

หลักการจำง่าย ๆ ในการใช้เกียร์จอดคือ หากเป็นการ จอดสนิท เลิกใช้งาน หรืออยู่ในซองจอดที่ปลอดภัย ที่ไม่มีใครมาเคลื่อนย้าย ให้ใช้ เกียร์ P แต่หากเป็นการ หยุดชั่วคราว รถติด หรือจอดซ้อนคัน ที่ต้องมีการเข็นเคลื่อนย้าย ให้เลือกใช้ เกียร์ N

สรุปแล้ว การใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกใช้เกียร์ P หรือ N ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนเท่านั้น แต่ยังช่วยถนอมกลไกสำคัญภายในระบบเกียร์รถยนต์ของคุณให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นด้วย