ผ่านกันไปเรียบร้อยแล้วครับสำหรับงาน Apple Event 2017 ซึ่งเป็นมหกรรมเปิดตัวสินค้าของ Apple ซึ่งในครั้งนี้ก็มีรายละเอียดสินค้าของ Apple รวมไปถึง iPhone 8 ใหม่นั้นจะมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น มาดูกันเลยดีกว่า
IPhone 8
ครั้งแรกของงานที่จัดขึ้นใน Steve Jobs Theter ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่เป็นอยู่ในไอเดียและแรงขับเคลื่อนของ Apple นั่นเอง และมีความฉลาด ถึงแม้ว่าจะจากพวกเราไปแล้วก็ตาม แต่สำหรับสถานที่แห่งนี้ก็มีความพิเศษไม่แพ้กับของที่เปิดตัวนอกจากสวยยังจุคนได้มากอีกด้วยเช่นเดียวกัน และเป็นการแนะนำ Apple Park ที่ทำการแห่งใหม่ ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมี Apple Retail Store ภายในนั้น
ในส่วนของร้านค้าของ Apple ที่ผ่านมามีหลายสาขาแต่ก็มีการแนะนำ Today Apple ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับคนที่ต้องการดูถึงแรงบรรดาลใจ และยังส่งเสริมให้นักพัฒนารุ่นใหม่เกิดด้วย พร้อมกับมี Section เรียนรู้และพบปะกับผู้คนที่ใช้ Apple ได้เหมือนกัน
Apple Watch Series 3
หลังจากที่มีการเปิดตัว Series 2 ในปีที่แล้วก็มีความสำเร็จคือเป็นนาฬิกาที่มีความนิยมอันดับ 1 ของโลกและมีคนพูดถึงและเลือกใช้เยอะเหมือนกัน แต่ว่าใน Watch OS 4 มีการปรับปรุงอะไรใหม่มากนัก นอกเหนือจาก การปรับปรุงเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
การจับเรื่องวัดชีพจรแบบไหมที่มีความละเอียดและแม่นยำดูข้อมูลได้มากขึ้น
เพิ่ม Apple Heart Study ไม่ใช้ปรึกษาปัญหาหัวใจแต่เป็นโปรแกรมที่จะทำให้ศึกษาเรื่องการเต้นของหัวใจได้ และมีข้อมูลได้มากขึ้น
Watch OS4 เปิดให้ติดตั้งในวันที่ 19 กันยายน
แต่สำหรับ Apple Series 3 นั้น หน้าตาเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนปุ่ม Digital Crown ให้เป็นสีแดง และเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งสัญญาณมือถือเข้าไปข้างใน มันจะสามารถโทรออกได้เช่นกัน รวมไปถึงการใช้งาน Apps ได้หลากหลายมากขึ้นรวมไปถึง We Chat และจะรองรับ Apple Music และฟังเพลงผ่านาฬิกาได้เลย ในด้านรูปร่าง ขนาดตัวเครื่องไม่ได้แตกต่างจาก Series 2
ใช้ CPU Dual Core แรงขึ้น 70% พร้อมกับติดตั้ง W2 ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้น 85% และประหยัดพลังงานขึ้น 50% และไม่มีช่องใส่ซิมการ์ด เพราะซิมการ์ดนั้นติดตั้งเข้าไปข้างในและติดตั้งซิมเข้าไปเลย เสาอากาศออกมาจากตรงกลาง และจะให้ดีมันมี GPS ในตัวด้วยนะ
และมีสายให้เลือกมากมาย ส่วนราคาก็มีดังต่อไปนี้
Apple Watch 3 รุ่น WiFi ราคา 329 ดอลล่าร์
Apple Watch 3 รุ่น Celluar ราคา 399 ดอลล่าร์
เปิดจอง 15 กันยายน และวางขาย 22 กันยายนนี้ (ประเทศ ไทย ขาย 29 กันยายน) มีรุ่น Series 1 ขายในราคา 249 ดอลล่าร์ แต่ไม่มี Series 2 อีกต่อไป
สามารถอ่านข้อมูลแบบจัดเต็มได้ที่นี่ครับ Apple Watch Series 3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
Apple TV
ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่รูปร่างหน้าตาออกมาตามกระแสข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เกือบทั้งหมด ซึ่งเป็น Apple TV 4K ที่มีความละเอียดมากรองรับการแสดงผล 4K HDR (HDR10) และมี Content ที่รองรับกับ 4K HDR มากขึ้น
ส่วน Hardware มีการนำ Apple A10X ของ iPad Pro มาช่วยในการประมวลผลมากขึ้น ในราคาเครื่องก็เท่าเดิม แถมรุ่นเดิมก็สามารถอัพเกรดความสามารถ 4K ได้แบบไม่ทิ้งไปไหน และปิดท้ายด้วย TV Apps สามารถใช้งานเพิ่มอีก 7 ประเทศด้วยกัน เท่ากับพกความบันเทิงไปได้ทุกที่ และสามารถเชื่อมต่อกับ HomeKIT ได้ ความสามารถนี้เฉพาะรุ่นใหม่
ตัวใหม่นี้สามารถเล่นเกมได้เพราะมันแรงพอสมควร
ราคาเริ่มต้น ของ Apple TV
32GB ราคา 149 ดอลล่าร์
4K 32GB: 179 ดอลล่าร์
4K 64GB : 199 ดอลล่าร์
ส่วนกำหนดกาวางจำหน่าย Apple TV รุ่นใหม่คือเปิดจอง 15 กันยายน และขาย 22 กันยายน (ในไทยคาดว่าขาย 29 กันยายน)
iPhone 8
มาพร้อมกับ 2 รุ่นคือ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่มาพร้อมกระจกหลังทั้งคู่ มี 3 สีให้เลือกได้แก่ Gold, Space Gray และ Silver และมันยังกันน้ำได้เหมือนเดิมด้วย ส่วนของหน้าจอ Retina HD Display ที่มีความคมชัด พร้อมกับ Truetone ครั้งแรก ลำโพงใหม่ดังขึ้นกว่าเดิมและเน้นเบสมากขึ้น
CPU ใหม่ A11 Bionic ที่เล็กลงแต่แรงขึ้น โดยแรงขึ้น 25% ประหยัดไฟขึ้นมาก GPU รองรับการการเล่นเกมมากมายจนเรียกว่าร้ายกาจ พร้อมกับข้างในมีการประมวลภาพลดการเกิด Noise และ การถ่ายภาพที่ดีขึ้น
กล้อง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus นั้นมีขนาด 12 ล้านพิกเซล แต่มีเซนเซอร์ (Sensor) ใหม่รองรับฟิวเตอร์ใหม่ แต่ว่าภาพรวมไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม Noise ลดลงสีสันสดขึ้นและรายละเอียดของภาพที่แสงน้อยดีขึ้น และ Portait Mode ละลายหลังดีขึ้น (มีเฉพาะ iPhone 8 Plus)
ความพิเศษของกล้องหลังคู่ใน iPhone 8 Plus ยังคงเป็น กล้องคู่มีรูรับแสง F1.8 และระยะ Tele F2.8 คือนอกจากถ่ายภาพ Portait Mode แล้วยังมีการปรับได้หลากหลายมากขึ้น
การถ่ายวีดีโอก็เร็วขึ้นในเรื่องของการประมวลผล จนเรียกได้ว่าจับได้ทุกวินาทีแถมด้วยการถ่าย 4K แบบ 60FPS ที่เร็วขึ้นด้วยเช่นกันและ Slow Mo ได้ 240 FPS แล้วเช่นกัน แถมรองรับการถ่ายวีดีโอจาก HDR
รองรับการ AR Technology ทำงานร่วมกับ Gyro ของเครื่อง ทำให้การเล่นเกมร่ใมกับกล้องนั้นทำได้มีความสามารถแสดงผลภาพในโลกความจริงได้ ฉะนั้นคอเกมที่ชอบ AR ไม่ควรพลาด
รองรับ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 พร้อมกับเชื่อมต่อ Apple W1 เร็วขึ้นและมาพร้อมกับ Wireless Charging วางแล้วชาร์จได้เลย สานหนึ่งเพราะกระจกด้านหลังทำให้มันชาร์จไฟได้นั่นเอง และเป็นมาตรฐาน Qi Wireless Charge และเสียบชาร์จไฟเร็วขึ้น แต่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเฉพาะที่ต้องจ่ายเินเพิ่มอีกประมาณ 3,000 บาท
ส่วนราคาและความจุ มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 64GB และ 256GB ราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลล่าร์ สำหรับ iPhone 8 เริ่มต้นที่ 799 สำหรับ iPhone 8 Plus เปิดจอง 15 กันยายน และขายจริง 22 กันยายน
ส่วน iOS11 จะเปิดให้โหลดในช่วงวันที่ 19 กันยายนนี้
สามารถอ่านข้อมูลแบบจัดเต็มได้ที่นี่ครับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
iPhone X (iPhone Ten)
ในที่สุดมันก็มาและมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่จอไร้กรอบพร้อมกับจอไร้กรอบ แบบ Super Retina Display ความละเอียดสูง 2046×1125 พิกเซล ขนาด 5.8 นิ้ว แต่จับยังคงถนัดกับมืออยู่ ใช้ OLED มีข้อดีคือ แสงที่ดี บางลง ความละเอียดสูง สว่าง รองรับ Dolby Vision และ HDR Display แถม 3D Touch ใช้แตะหน้าจอไม่ต้องกดปุ่มก็จอติดได้เลื่อนหน้าจอหลักหรือปัดขึ้นเพื่อกลับ Home จาก Apps ค้างก็สลับ Apps ได้ แต่การเรียก Siri ต้องกดปุ่ม Power ค้างไว้ แถมมีการย้ายไมโครโฟนอยู่ด้านบน
ตัวเครื่องมีสีให้เลือกคือ สีดำ (Space Gray) และ สีเงิน
สามารถอ่านข้อมูลแบบจัดเต็มได้ที่นี่ครับ iPhone X (iPhone Ten) มาตามคาด!!! และนี่คืออนาคตของสมาร์ทโฟน
ระบบปลดล็อคใหม่นั้นมีชื่อว่า Face ID ใช้เทคโนโลยีเยอะมาก และมีการฉาย Dot เพื่อให้สามารถจับใบหน้าเราและทำได้ดีเมื่ออยู่แสงน้อยหมดกังวลถ้าจะใช้ในที่แสงน้อย รองรับ Machine Learning ผ่าน Nuraral Engine ผ่าน Apple A11 Bionic และเรียนรู้ว่าทั้งการแต่งตัว หรือถ่ายภาพ แต่ว่าใช้ไม่ได้ผลเพราะมีการจับในเรื่องของมิติ ผ่านการบันทึกเข้าไปในชิปว่าต้องเป็นคุณเท่านั้นที่ปลดล็อคได้
เมื่อเทียบกับ Touch ID ระบบนี้จะปลอดภัยกว่า เพราะมีโอกาส 1 ในล้านที่จะถูกล้วงให้ปลดล็อค ต่อให้เป็นแฝด และยังสามารถใช้กับ Face iphone8 ID ผ่าน Apps Store, Apple Pay ได้เช่นกัน